การส่งตรวจ
การส่งตรวจ
วิธีการเก็บและวิธีส่งสิ่งส่งตรวจ
คำแนะนำโดยทั่วไป
- สิ่งส่งตรวจทุกชนิด
- ต้อง ระบุชื่อ - นามสกุลผู้ป่วย อายุ, เพศ, เลขที่ทั่วไป, เลขที่ภายใน (ถ้ามี) ชื่อแพทย์ผู้ส่งตรวจ ชนิดของสิ่งส่งตรวจ และหรือตำแหน่งและระบุ ความต้องการตรวจให้ชัดเจน
- ต้อง มีใบนำส่งถึงผู้อำนวยการสถาบันพยาธิวิทยา
- ต้อง มีใบ Request และกรอกรายละเอียดต่าง ๆ ที่ มีในแบบฟอร์มให้ครบถ้วน กรณีต้องการผลด่วนให้เขียนคำว่าด่วนบนหัวกระดาษ (ควรเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วนจริง ๆ)
- การส่งตรวจต่อไปนี้ต้องมีการแจ้งล่วงหน้า อย่างน้อย 1 วัน โดยทำการแจ้งไปยังกลุ่มงานที่รับผิดชอบตามหมายเลขโทรศัพท์แนบท้ายนี้
- Frozen section กลุ่มงานจุลพยาธิ ต่อ 126 คุณกฤษฏ์
- Kidney biopsy กลุ่มงานชันสูตรพิเศษ ต่อ 215 คุณนัดดา
- Electron Microscopic Examination กลุ่มงานชันสูตรพิเศษ ต่อ 215 คุณนัดดา
- กรุณาปฏิบัติอย่างเคร่งครัดต่อวิธีการเก็บและวิธีส่งสิ่งส่งตรวจของงานบริการแต่ละประเภทเพื่อประโยชน์ สูงสุดของผู้รับบริการและหรือผู้ป่วย
วิธีการเก็บและวิธีส่งสิ่งส่งตรวจทางศัลยพยาธิ
วิธีเตรียมชิ้นเนื้อ
วัสดุอุปกรณ์และสารเคมีที่ต้องเตรียม
- ขวดปากกว้างมีฝาปิดสนิทขนาดต่าง ๆ อาจจะใช้ขวดแก้วใส ขวดพลาสติกใส หรือ ถุงพลาสติกก็ได้ขึ้นกับขนาดของชิ้นเนื้อ
- ใบส่งตรวจทางพยาธิวิทยา
- ป้ายกระดาษที่ไม่ฉีกขาดง่ายเมื่อถูกน้ำสำหรับปิดขวด
- น้ำยาสำหรับแช่เนื้อที่เหมาะสม คือ Neutral buffered formalin
วิธีผสม
- 40 % Formaldehyde 100 cc.
- น้ำกลั่น 900 cc.
- Sodium dihydrogen phosphate monohydrate 4 กรัม
- Disodium hydrogen phosphate anhydrous 6.5 กรัม
การแช่ชิ้นเนื้อ
- ชิ้นเนื้อทุกชนิดที่ได้จากการผ่าตัด, การไบอ็อบซี่ ต้องแช่ชิ้นเนื้อในน้ำยา บัพเฟอร์ ฟอร์มาลินเพื่อป้องกันการเน่า โดยใส่ขวดปากกว้างพอที่จะนำชิ้นเนื้อออกมาได้เมื่อชิ้นเนื้อแข็งเต็มที่แล้ว ขวดควรจะมี ฝาปิดสนิทป้องกันการระเหย ปริมาตรน้ำยาที่ใช้ประมาณ 10-12 เท่าของชิ้นเนื้อ ขวดที่ใส่ชิ้นเนื้อจะต้อง ปิดฉลากชื่อ, นามสกุล, เพศ, อายุ, เลขที่ภายในของโรงพยาบาล วัน เดือน ปี ที่มาของชิ้นเนื้อว่าตัดมาจาก อวัยวะใน ส่วนใด ของร่างกาย ขวาหรือซ้าย ชื่อแพทย์ผู้ส่งตรวจ และคำวินิจฉัยของแพทย์ผู้รักษา ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการสลับ ชิ้นเนื้อใช้ดินสอและปากกาลูกลื่นที่ไม่ลบเลือนในน้ำยาฟอร์มาลินและแอลกอฮอล์ เขียนฉลาก
- ถ้าหากชิ้นเนื้อมีขนาดใหญ่ น้ำยาจะซึมผ่านได้ไม่ตลอดทำให้เนื้อส่วนที่อยู่ลึกจากผิวเน่า จึงควรจะฝานเนื้อเป็นชิ้น ๆ มีความหนาประมาณ 1-2 ซม. โดยไม่ขาดจากกัน และต้องไม่ทำให้ชิ้นเนื้อ เสียรูปร่าง คือ สามารถจะจัดเรียงเป็นรูปเดิมได้ เพื่อการตรวจทางกายวิภาคให้ถูกต้อง ถ้าหากชิ้นเนื้อ มีขนาดเล็กมาก ควรห่อด้วยกระดาษสาชั้นหนึ่งก่อนแช่น้ำยา
- โดยทั่ว ๆ ไป พยาธิแพทย์มีความประสงค์จะตรวจชิ้นเนื้อทั้งหมดที่ตัดออกมาจากผู้ป่วยเพื่อจะได้ดูถึงพยาธิสภาพทั้งด้วยตาเปล่าและด้วยกล้องจุลทรรศน์ และบันทึกเป็นหลักฐานทางวิชาการได้ ถูกต้องตามความเป็นจริง เพื่อประโยชน์ของผู้ป่วยและการติดตามผลภายหลัง
วิธีเตรียมส่ง
การห่อชิ้นเนื้ออาจปฏิบัติวิธีใดวิธีหนึ่งก็ได้และแต่ความสะดวก
- ส่งทั้งขวดที่มีน้ำยาฟอร์มาลินและเนื้อแช่อยู่ โดยฝาขวดจะต้องปิดสนิทน้ำยาไม่สามารถ ไหลออกมาได้ การบรรจุในขวด ควรมีวัสดุรองกันและรอบ ๆ กล่องพัสดุ เพื่อป้องกันการกระแทก ระหว่างการนำส่ง
- ส่งโดยห่อด้วยถุงพลาสติกหนา ๆ วิธีนี้อาจจะทำให้ทุ่นค่าส่งทางไปรษณีย์ได้และไม่มีปัญหา เรื่องขวดแตก มีวิธีปฏิบัติดังต่อไปนี้ นำชิ้นเนื้อที่แช่น้ำยา Buffered formalin ใส่ถุงพลาสติกหนา ๆ ปิดฝาถุงให้สนิท โดยใช้น้ำยา ที่ละลายพลาสติก เช่น คลอโรฟอร์ม เชื่อมที่ขอบทุกด้านไม่ให้มีรูรั่วหรืออาจจะใช้เครื่องปิดถุงพลาสติก ด้วยไฟฟ้า (ถ้ามี) หรือใช้ยางรัด การใส่ถุงนี้ควรใส่ถุงหลายชั้น เพื่อป้องกันการรั่วซึม และการระเหย ของฟอร์มาลิน
การส่งชิ้นเนื้อ
- ชิ้นเนื้อและใบส่งตรวจห่อตามระเบียบของพัสดุไปรษณีย์ เพื่อป้องกันการชำรุดเสียหายระหว่างทาง หรือนำส่งด้วยตนเองโดยส่งพร้อมหนังสือราชการนำส่ง และแจ้งจำนวนพร้อมรายชื่อผู้ป่วยเพื่อป้องกัน การสูญหาย
การส่งชิ้นเนื้อทางศัลยพยาธิ
- การส่งชิ้นเนื้อ
- ชิ้นเนื้อแช่น้ำยา (Neutral buffered formalin) บรรจุในภาชนะที่มี ฝาปิดสนิท
- ใบประวัติผู้ป่วย ที่กรอกละเอียดครบถ้วน ชัดเจน ใช้ดินสอหรือหมึกที่ไม่ละลายในน้ำยาฟอร์มาลิน
- ใบนำส่ง
- ในกรณีที่ส่งชิ้นเนื้อมาครั้งละมากๆ ควรมีใบรายชื่อผู้ป่วยทั้งหมดกำกับมาด้วย เพื่อป้องกันการสูญหาย และสลับชิ้นเนื้อ
- บรรจุชิ้นเนื้อ, ใบประวัติ, ใบนำส่ง ลงในกล่องที่มีเศษวัสดุกันกระแทกอย่างดี
- นำส่งไปรษณีย์ จ่าหน้าถึง ผู้อำนวยการสถาบันพยาธิวิทยา สถาบันพยาธิวิทยา เลขที่ 2/2 ถนนพญาไท แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
- เขียนชื่อ - สกุล ผู้ป่วยบนหัวสไลด์ฝ้า
- หยดหรือป้ายสิ่งส่งตรวจบนสไลด์
- ใช้สไลด์อีกแผ่นหนึ่งเขียนชื่อ-นามสกุล แล้ววางประกอบด้านบน แล้วลากไปด้านหนึ่งให้ สิ่งส่งตรวจกระจายทั่วสไลด์และบางสม่ำเสมอกัน
- นำสไลด์ทั้งหมดแช่ใน 95 % ethanol ทันที แช่ทิ้งไว้อย่างน้อย 24 ชั่วโมง แล้วนำขึ้นผึ่งให้แห้ง ห่อด้วยกระดาษ เขียนชื่อ-นามสกุล นำส่งพร้อมใบประวัติและใบนำส่ง
การขอผลตรวจทางพยาธิวิทยาแบบเร่งด่วน (Emergency tract)
- ให้บริการตรวจทางพยาธิวิทยาในผู้ป่วยที่มีข่อบ่งชี้ทางการแพทย์ (medical indications) ที่คุกคามชีวิต (life-threatening) และต้องการผลตรวจเพื่อประกอบการรักษา ได้แก่
- การติดเชื้อที่คุกคามชีวิต เช่น invasive fungal infection
- มะเร็งที่มีภาวะต้องรักษาอย่างเร่งด่วน เช่น SVC syndrome
- รับตรวจเฉพาะชิ้นเนื้อขนาดเล็ก (small biopsy) ที่แช่น้ำยา formalin และสิ่งส่งตรวจเซลล์วิทยา (cytology)
- กำหนดการรายงานผลภายใน 4 วันทำการ นับตั้งแต่วันที่ได้รับสิ่งส่งตรวจ
- หากจำเป็นต้องได้ผลตรวจก่อน 4 วันทำการ กรุณาติดต่อพยาธิแพทย์ก่อนการส่งตรว (สอบถามชื่อพยาธิแพทย์ผู้รับผิดชอบที่ เบอร์ 02-3548208 ต่อ 212, 216)
สิ่งส่งตรวจที่ต้องการตัดชิ้นเนื้อโดยวิธีแช่แข็ง (Frozen sections)
การส่งชิ้นเนื้อสดจากห้องผ่าตัดกรณีต้องการทราบผลเร่งด่วนต้องปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้
- นำใบรายงานส่งห้องปฏิบัติการจุลพยาธิ 2 เพื่อนัดล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน โดยระบุ รายละเอียดให้ครบถ้วน ดังนี้
- ชื่อ-นามสกุล อายุ เพศ HN AN แพทย์ผู้ทำการผ่าตัดหอผู้ป่วยพร้อมหมายเลข โทรศัพท์ห้องผ่าตัดสำหรับกรณีที่จำเป็นต้องมีการติดต่อกลับ
- ชนิดและตำแหน่งของสิ่งส่งตรวจ ประวัติการตรวจวินิจฉัยเบื้องต้น
- วัน เวลา ที่จะทำการผ่าตัด
- การส่งชิ้นเนื้อสดให้นำชิ้นเนื้อสดที่ได้จากการผ่าตัดโดยไม่ต้องแช่ในน้ำยาใด ๆ ทั้งสิ้น บรรจุชิ้นเนื้อสดในภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด พร้อมระบุชื่อ-นามสกุล และตำแหน่งของชิ้นเนื้อเพื่อ ตรวจสอบความถูกต้อง
- เจ้าหน้าที่ผู้นำชิ้นเนื้อไปส่งจะต้องรอรับผลการวินิจฉัยเพื่อนำไปส่งแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดด้วย และกรณีที่ได้รับผลครั้งแรกแล้วต้องการส่งชิ้นเนื้อสด เพื่อทำการตัดแช่แข็งเพิ่มเติมให้รีบแจ้งพยาธิแพทย์และเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการทราบโดยเร็วที่สุด
หมายเหต : กรณีที่นำใบรายงานส่งไปนัดล่วงหน้าแล้ว ต้องการงดทำ Frozen sections กรุณาแจ้ง ให้เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการทราบด้วย
การส่งชิ้นเนื้อเพื่อตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน (Electron microscopic examination)
วิธีการส่งชิ้นเนื้อเพื่อตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน (Electron Microscopy)
ชิ้นเนื้อที่ต้องการส่งตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบ่งได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้
- ชิ้นเนื้อสดที่ได้จากการผ่าตัดทันที (fresh specimen)
- ชิ้นเนื้อที่ผ่านการแช่ในฟอร์มาลินมาแล้ว (formalin-fixed specimen)
- ชิ้นเนื้อจากพาราฟินบล็อก (paraffin-embedded specimen) ชิ้นเนื้อประเภทที่ 1 จะให้ผลการตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนได้ดีที่สุด เพราะฉะนั้น หากเป็นไปได้ ควรส่งชิ้นเนื้อประเภทที่ 1 มาตรวจ ชิ้นเนื้อประเภทที่ 1 สามารถเตรียมชิ้นเนื้อก่อนส่งตรวจได้ ดังนี้
วิธีการเก็บชิ้นเนื้อ
- แจ้งแพทย์ผู้รับผิดชอบและเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการจุลทรรศน์อิเล็กตรอนล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน
- เตรียมน้ำยา glutaraldehyde fixative หรือขอรับน้ำยานี้ได้ที่ห้องปฏิบัติการจุลทรรศน์อิเล็กตรอน แล้วเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อรอการใช้งาน
- ทันทีที่ได้ชิ้นเนื้อสดจากการผ่าตัด ให้แบ่งมาส่วนหนึ่งล้างด้วย normal saline
- ใช้ใบมีดคม ๆ หั่นชิ้นเนื้อที่แบ่งมานี้ออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ (ขนาดประมาณ 1 ลบ.ม.ม.) ในระหว่างนี้ให้หล่อชิ้นเนื้อด้วยน้ำยา glutaraldehyde ตลอดเวลา และควรรีบทำด้วยความรวดเร็ว ใส่ชิ้นเนื้อที่ได้ทั้งหมดลงในขวดน้ำยา glutaraldehyde บันทึกเวลาที่ใส่ชิ้นเนื้อ แล้วนำส่งห้องปฏิบัติการ-
จุลทรรศน์อิเล็กตรอนภายในเวลาไม่เกิน 30 นาที
- หากไม่สามารถส่งชิ้นเนื้อได้ทันที ให้จับเวลา 30 นาที ระหว่างนี้ให้เขย่าขวดตลอดเวลาหรือใส่ขวดใน rotator หรือ shaker หลังจากครบเวลาให้เปลี่ยนใส่น้ำยา phosphate buffer แทน จากนั้นให้เปลี่ยนน้ำยา phosphate buffer อีก 2 ครั้ง ๆ ละ 10 นาที แล้วเก็บใส่ตู้เย็นเพื่อรอส่งไปห้องปฏิบัติการจุลทรรศน์อิเล็กตรอนต่อไป (ควรส่งภายในเวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์)
- ชิ้นเนื้อประเภทที่ 2 และ 3 สามารถส่งมาได้ตามปกติ
หมายเหต : การตรวจชิ้นเนื้อด้วยกล้องจุลทรรศน์ธรรมดา ยังมีความสำคัญเป็นอันดับแรกของการตรวจชิ้นเนื้อที่ได้จากการผ่าตัด เพราะฉะนั้นการตรวจชิ้นเนื้อด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนควรทำไปพร้อมกับการตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ธรรมดา
น้ำยาที่จำเป็นต้องใช้ |
1 |
4% Glutaraldehyde in Phosphate buffer 50% glutaraldehyde (EM grade) Phosphate buffer เก็บไว้ในตู้เย็น |
8 ml. 92 ml.
|
2 |
Phosphate buffer Solution A : Sodium dihydrogen phosphate monohydrate Distilled water |
2.26 g. 100 ml. |
|
Solution B : Sodium hydroxide Distilled water |
2.52 g. 100 ml. |
|
Solution C : Glucose (anhydrous) Distilled water |
5.4 g. 100 ml. |
|
Solution D : ผสม Solution A 41.5 ml. กับ Solution B 8.5 ml. ปรับ pH 7.3-7.4 Buffer : ผสม Solution C 5 ml. กับ Solution D 45 ml. เก็บไว้ในตู้เย็น |
|
การกำหนดวิธีการเก็บและส่งสิ่งส่งตรวจทางอณูพยาธิวิทยา
การกำหนดวิธีการเก็บและส่งสิ่งส่งตรวจ
- ให้สถานพยาบาลผู้ส่งตรวจมีใบส่งตรวจ (ใบ Request) กรอกรายละเอียดต่างๆ ที่มีในแบบฟอร์มให้ครบถ้วน พร้อมกับใบรายงานทางพยาธิวิทยา และระบุความต้องการตรวจให้ชัดเจน
- ให้สถานพยาบาลผู้ส่งตรวจจัดทำใบนำส่งถึงผู้อำนวยการสถาบันพยาธิวิทยา สำหรับเรียก เก็บเงินค่าตรวจและหากลืมส่งจะไม่สามารถออกผลการตรวจได้ (ในกรณีที่เป็นหน่วยงานของทางราชการอาจใช้ใบนำส่งโดยมีลักษณะตามตัวอย่างที่แนบมา)
- นอกจากนี้ให้ระบุในใบนำส่งว่า “ทาง....................(ชื่อสถานพยาบาลที่ส่งตรวจ) ขอส่งตรวจวิเคราะห์………...” โดยให้มีข้อความว่า “ขอให้มีการแจ้งเรียกเก็บเงินเป็นรายเดือน” (ในกรณีที่ไม่ได้จ่ายเงินสดและต้องการให้มีการเรียกเก็บเงินภายหลังการตรวจ)
- หากไม่เป็นไปตามที่กำหนดทางสถาบัน สามารถพิจารณาเพื่อดำเนินการปฏิเสธสิ่งส่งตรวจ
การเขียนแบบฟอร์มขอส่งตรวจ (ใบ Request)
- สถานพยาบาลผู้ส่งตรวจระบุคำวินิจฉัยของแพทย์ผู้รักษา เช่น history diagnosis, clinical
diagnosis หรือ pathological diagnosis ให้ชัดเจน ถ้ามีการวิเคราะห์ผล AFB (สำหรับการตรวจเชื้อวัณโรค) แล้วให้ระบุผลด้วย ระบุว่าตัดเนื้อเยื่อจากตำแหน่งใด อวัยวะใด ส่วนใดให้ชัดเจน ระบุชื่อ, นามสกุล, เพศ, อายุ, เลขที่ภายในของโรงพยาบาล วันเดือนปี ให้ชัดเจน (อาจใช้ตามตัวอย่างใบ request ที่แนบมาด้วย)
- กรุณาระบุเบอร์ติดต่อแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ เพื่อสะดวกในการติดต่อกลับ ในกรณีเกิดปัญหา หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
วิธีการเก็บและส่งสิ่งส่งตรวจ
ตรวจเชื้อวัณโรค การกลายพันธุ์ของยีน Kras และ EGFR
- การตรวจทั้ง 3 ชนิดนี้จะรับเฉพาะสิ่งส่งตรวจที่เป็น paraffin embedded tissue นอกจากนี้การแช่ 10% neutral buffered formalin ในขั้นตอนก่อนการเตรียม paraffin embedded tissue นั้นไม่ควรนานเกิน 24 ชม.เนื่องจากจะทำให้ DNA ที่ต้องการตรวจเสื่อมสภาพ
- วิธีการเก็บและส่งสิ่งส่งตรวจที่เป็น paraffin embedded tissue
- ให้สถานพยาบาลผู้ส่งตรวจเลือกจากบล็อกที่ได้รับการวินิจฉัยแล้วว่ามีส่วนของชิ้นเนื้อที่สงสัยและต้องการตรวจ และบล็อกจะต้องมีเลขที่ ตรงกันกับใบส่งตรวจ
- การขนส่งควรมีวัสดุกันกระแทกขณะนำส่ง ชิ้นเนื้อและใบส่งตรวจห่อตามระเบียบของพัสดุไปรษณีย์ เพื่อป้องกันการชำรุดเสียหายระหว่างทาง หรือนำส่งด้วยตนเองโดยส่งพร้อมหนังสือราชการนำส่ง
ระยะเวลาในการออกผล ทางหน่วยงานจะรวบรวมและเริ่มเตรียมตัวอย่างทุกวันพุธบ่าย ของทุกสัปดาห์ ระยะเวลาในการออกผลตรวจจะแยกเป็น 2 กรณี
- ถ้าทางสถาบันได้รับตัวอย่างสิ่งส่งตรวจ วันจันทร์ วันอังคาร และวันพุธก่อนเวลา 12.00 น. ผลการตรวจจะได้รับในวันพุธถัดไป (7 วัน)
- หากสถานพยาบาลผู้ส่งตรวจส่งตัวอย่างมาถึงสถาบันพยาธิวิทยาหลังจากวันพุธเวลา 12.00 น. จะได้รับผลการตรวจใน 2 สัปดาห์ถัดไป
ตรวจ Ewing’s sarcoma
การตรวจนี้จะรับสิ่งส่งตรวจทั้งที่เป็น paraffin embedded tissue และตัวอย่างสด
ในกรณีตัวอย่างสดจะต้องแช่ทันทีหลังตัดในน้ำยาเฉพาะ (RNAlater) ซึ่งเก็บได้ที่อุณหภูมิ 15-25°C และรีบนำส่งภายใน 2 วัน ส่วนกรณีตัวอย่างที่เป็น paraffin embedded tissue ให้ปฏิบัติเช่นเดียวกับการส่งตรวจเชื้อวัณโรค การกลายพันธุ์ของยีน Kras และ EGFR ข้างต้น
ระยะเวลาในการออกผล ทางหน่วยงานจะรวบรวมและเริ่มเตรียมตัวอย่างทุกวันศุกร์บ่ายของทุกสัปดาห์ ระยะเวลาในการออกผลตรวจจะแยกเป็น 2 กรณี
- ถ้าทางสถาบันได้รับตัวอย่างสิ่งส่งตรวจก่อนวันศุกร์เวลา 12.00 น. ผลการตรวจจะได้รับในวันศุกร์ถัดไป (7 วัน)
- หากสถานพยาบาลผู้ส่งตรวจส่งตัวอย่างมาถึงสถาบันพยาธิวิทยาหลังจากวันศุกร์เวลา 12.00 น. จะได้รับผลการตรวจใน 2 สัปดาห์ถัดไป
ตรวจยีน SRY
การตรวจนี้จะรับสิ่งส่งตรวจที่เป็นตัวอย่างเลือด ควรเจาะเลือดปริมาณ 2-5 มิลลิลิตร ใส่หลอดที่มีสารกันเลือดแข็ง EDTA หรือ heparin และนำส่งภายใน 24 ชั่วโมงที่ 4 องศาเซลเซียส
ระยะเวลาในการออกผล คือ 7 วันทำการ
ตรวจหาปริมาณยีนด้วยวิธี Fluorescence In Situ Hybridization (HER-2/neu และ N-myc FISH)
- การส่งเป็นบล็อกพาราฟิน
- เลือกบล็อกที่มีเนื้อเยื่อมะเร็ง
- ระบุหมายเลขบล็อก และรายละเอียดต่าง ๆ ในใบส่งตรวจให้ชัดเจนพร้อมกับใบรายงานทางพยาธิวิทยา
- การส่งเป็นสไลด์
- สไลด์ที่ตัดจากบล็อกพาราฟินที่มีเนื้อเยื่อมะเร็ง ความหนาของ section 3ไมครอน นำเข้าตู้อบที่อุณหภูมิ 50°C ทิ้งไว้ข้ามคืน หรือ 58 °C อย่างน้อย 2 ชม. โดยใช้สไลด์ที่เคลือบด้วย Aminopropyl triethoxysilane แทน gelatin และควรส่งสไลด์จากบล็อกเดียวกันอย่างน้อย 3 แผ่น เนื่องจากอาจจะมีชิ้นเนื้อหลุดจากสไลด์ในขั้นตอนการย้อมได้ พร้อมด้วย H&E stained slide เพื่อใช้ประเมินสไลด์และระบุตำแหน่งของเซลล์มะเร็งในขั้นตอนการแปลผล
- เขียนหมายเลขชิ้นเนื้อ (surgical number) บนสไลด์และระบุรายละเอียดต่าง ๆ ในใบส่งตรวจให้ชัดเจนพร้อมกับใบรายงานทางพยาธิวิทยา
หมายเหตุ :
- วันเวลาในการส่งชิ้นเนื้อ คือ วันจันทร์ - พฤหัสบดี ก่อน 14.00 น. และไม่ควรติดวันหยุดราชการต่อเนื่อง เนื่องจากจะต้องนำชิ้นเนื้อนั้นผ่านขบวนการเตรียมชิ้นเนื้อภายในวันที่ได้รับ
- บล็อกที่ได้ควรมาจากชิ้นเนื้อที่ fix ด้วย 10% neutral buffered formalin อย่างน้อย 6 ช.ม. และไม่เกิน 48 ช.ม. การใช้น้ำยา fixative ชนิดอื่นหรือระยะเวลาในการ fixation สั้น (<6 ช.ม.) หรือนาน (>48 ช.ม.) มีผลต่อการแปลผล อาจได้ผลเป็นลบลวง (false negative) ได้
ระยะเวลาในการออกผล คือ 7 วันทำการ
หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตรวจติดต่องานอณูพยาธิวิทยา กลุ่มงานชันสูตรพิเศษตามเลขหมายโทรศัพท์ดังนี้
คุณประจักษ์ ผ่องอำพันธ์
02-3548208-15 ต่อ 136
คุณศิริรัตน์ สีขุนทด
02-3548208-15 ต่อ 233
สิ่งส่งตรวจทางฮิสโตเคมี (Histochemistry)
- การส่งเป็นบล็อกพาราฟิน สิ่งที่นำส่ง
- ใบสั่งย้อมพิเศษซึ่งระบุวิธีย้อมที่ต้องการ ผู้สั่ง และวันที่สั่งย้อม
- บล็อกพาราฟินของชิ้นเนื้อที่ต้องการสั่งย้อมพิเศษ
- การส่งเป็นสไลด์ สิ่งที่นำส่ง
- ใบสั่งย้อมพิเศษซึ่งระบุวิธีย้อมที่ต้องการ ผู้สั่ง และวันที่สั่งย้อม
- สไลด์ซึ่งออกได้เป็น
- สไลด์ที่ตัดจากบล็อกพาราฟิน ความหนาของ Sections ประมาณ 3-5 ไมครอน โดยใช้สไลด์ที่เคลือบด้วย gelatin และผ่านการเข้าตู้อบที่อุณหภูมิ 58-60°C อย่างน้อย 1 ชั่วโมง
- สไลด์จากเซลล์สเมียร์ ซึ่งย้อม PAP มาแล้วและต้องการให้ล้างสี PAP ออก เพื่อย้อมพิเศษตามวิธีที่ต้องการ
- สไลด์จากเซลล์สเมียร์ที่ยังไม่ได้ย้อมสีให้ Fix มาใน 95% alcohol
- สไลด์จากเซลล์สเมียร์ที่ยังไม่ได้ย้อมสีและต้องการย้อมพิเศษเพื่อดูไขมัน (Fat) ให้ fix มาใน 60% Isopropyl alcohol
- การส่งชิ้นเนื้อที่ต้องการดูไขมัน (Fat) นำชิ้นเนื้อที่ต้องการดูไขมันขนาดหนาไม่เกิน 4-5 มิลลิเมตร แช่มาใน 10% formalin ในปริมาณที่เหมาะสมประมาณ 10 เท่าของขนาดชิ้นเนื้อบรรจุในภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด พร้อมระบุ หมายเลขของชิ้นเนื้อ และแพทย์ผู้ส่งให้ชัดเจน
สิ่งส่งตรวจทางอิมมูโนฮีสโตเคมี (Immunohistochemistry)
- การส่งชิ้นเนื้อสดที่ได้จากการผ่าตัด เพื่อต้องการตรวจหา Hormone receptor
- ให้ส่งชิ้นเนื้อพร้อมแบบฟอร์มขอตรวจชิ้นเนื้อ กรอกรายละเอียดต่าง ๆ ให้ถูกต้องครบถ้วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งชนิดของแอนติเจนที่ต้องการตรวจหา
- ควร fix ชิ้นเนื้อทันทีใน 10% neutral buffer formalin รีบนำส่งสถาบันพยาธิวิทยา ชิ้นเนื้อที่ได้รับไม่ควร fix ในฟอร์มาลินเกิน 24 ชม.
- ถ้าไม่สามารถนำส่งได้ภายใน 24 ชม. ควรเก็บชิ้นเนื้อที่ fix ในฟอร์มาลินไว้ในตู้เย็น (ช่องธรรมดา) ขณะนำส่งควรแช่มาในน้ำแข็งด้วย หมายเหตุ วันเวลาในการส่งชิ้นเนื้อ คือ วันจันทร์ - พฤหัสบดี ก่อน 14.00 น. และไม่ควรมี วันหยุดราชการต่อเนื่อง เนื่องจากจะต้องนำชิ้นเนื้อนั้นผ่านขบวนการเตรียมชิ้นเนื้อภายในวันที่ได้รับ ชิ้นเนื้อ การ fix ในฟอร์มาลินนาน ๆ ทำให้ติดสีจางลง หรือเกิดผลลบปลอมได้
- การส่งเป็นบล็อกพาราฟิน
- เลือกจากบล็อกที่ได้รับการวินิจฉัยแล้วว่า มีส่วนของชิ้นเนื้อที่สงสัยและต้องการตรวจ
- ระบุชนิดของแอนติเจนที่ต้องการตรวจหมายเลขบล็อก และรายละเอียดต่าง ๆ ในใบส่งตรวจให้ชัดเจน
- การส่งเป็นสไลด์
- สไลด์ที่ตัดจากบล็อกพาราฟิน ความหนาของ section 3-4 ไมครอน นำเข้าตู้อบที่ อุณหภูมิ 50°C ทิ้งไว้ข้ามคืน หรือ 58°C อย่างน้อย 2 ชม. โดยใช้สไลด์ที่เคลือบด้วย aminopropyl triethoxyysilane แทน gelatin และควรส่งสไลด์จากบล็อกเดียวกันมากกว่า 2 แผ่น เพื่อทำ สไลด์ควบคุมและสำรอง เนื่องจากการย้อมมีหลายขั้น อาจจะมีชิ้นเนื้อหลุดจากสไลด์ สไลด์ที่ตัดไว้นานเกิน 5 วันไม่เหมาะสำหรับย้อมหา estrogen receptor และ แอนติเจนอื่น ๆ อีกหลายชนิด เพราะจะติดสีได้น้อยลงหรือไม่ติดสีเลย
- สไลด์จากเซลล์สเมียร์ อาจจะเป็น
- สไลด์ที่ย้อมสี PAP หรือ H&E มาแล้ว
- สไลด์ที่ยังไม่ได้ย้อมสี ให้ fix มาใน 95% แอลกอฮอล์
- สไลด์ Imprint เช่น จากมะเร็งเต้านมที่ต้องการย้อมหา ER, PR
- ให้ air dry 2-14 ชม. ที่อุณหภูมิห้องหรือ
- fix ใน 10% buffer formalin 2-4 ชม. (air dry สามารถเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้อง ประมาณ 10 วัน)
สไลด์ปรึกษา
วิธีการส่งตรวจ
- ส่งสไลด์พร้อมบล็อกชิ้นเนื้อในกรณีปรึกษาชิ้นเนื้อทางศัลยพยาธิ, ชันสูตรพิเศษ งานจุลทรรศน์อิเล็กตรอน หรือสไลด์ในกรณีปรึกษาทางเซลล์วิทยา พร้อมใบประวัติผู้ป่วย ซึ่งระบุผลการตรวจทางคลินิก, การวินิจฉัยโรค และหนังสือนำส่งถึง ผู้อำนวยการสถาบันพยาธิวิทยา
- โปรดระบุ ชนิดของการปรึกษาให้ชัดเจน
งานตรวจศพ
วิธีการส่งตรวจ
- ในการขอชันสูตรศพ แพทย์ผู้ขอมีหน้าที่อธิบายแก่ญาติ ให้ทราบขั้นตอนและวิธีการของการตรวจศพก่อนทำการตรวจศพ ดังนี้
- ต้องมีรอยผ่าและเย็บบริเวณหน้าอกถึงท้องน้อย และบริเวณหนังศีรษะ
- ต้องมีการเอาอวัยวะภายในออกมาตรวจ
- ต้องใช้เวลาในการตรวจประมาณ 3 ชั่วโมงต่อราย
- ส่งศพที่ต้องการตรวจ พร้อมใบยินยอมของญาติผู้เสียชีวิตแฟ้มประวัติผู้เสียชีวิต และใบร้องขอตรวจศพของแพทย์ผู้ขอให้กลุ่มงานตรวจศพ สถาบันพยาธิวิทยา
- ศพที่ต้องการตรวจไม่ควรเสียชีวิตเกิน 3 วัน
- แพทย์ผู้ขอ สามารถเข้าร่วมทำการตรวจศพกับพยาธิแพทย์ได้
งานบริการตรวจพิเศษ
การส่งชิ้นเนื้อ Kidney biopsy
การส่งชิ้นเนื้อ Kidney biopsy เพื่อการตรวจทางพยาธิวิทยา
การเตรียมก่อนส่งตรวจ
- แจ้งให้เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการผู้รับผิดชอบทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน โดยโทรศัพท์แจ้งที่ สถาบันพยาธิวิทยา เบอร์โทรศัพท์ 0-2354-8208-15 แล้วต่อสายภายในตามหมายเลขเรียงลำดับ ดังนี้
- ห้องปฏิบัติการจุลทรรศน์อิเล็กตรอน โทร.215 - กลุ่มงานชันสูตรพิเศษ โทร.136
- ศูนย์รับ-ส่งสิ่งส่งตรวจ โทร.212
- เตรียมน้ำยาใส่ขวดไว้ ดังนี้
- ขวดที่ 1 : 4% glutaraldehyde in phosphate buffer
- ขวดที่ 2 : normal saline
- ขวดที่ 3 : 10% neutral buffer formalin
(น้ำยาทั้งหมดขอรับล่วงหน้าที่ห้องปฏิบัติการจุลทรรศน์อิเล็กตรอน สถาบันพยาธิวิทยา แล้วนำไปเก็บไว้ในตู้เย็นอุณหภูมิ 4°C หรือเตรียมได้เองตามวิธีเตรียมหน้า 43)
วิธีเก็บชิ้นเนื้อที่ได้จากการทำ Kidney biopsy
- ล้างชิ้นเนื้อที่เก็บได้ด้วย normal saline ทันที
- หยด normal saline ลงบนสไลด์ นำชิ้นเนื้อวางลงใน normal saline แล้วใช้มีดโกนหรือมีดผ่าตัดใหม่ ที่มีความคมมากแบ่งชิ้นเนื้อเป็น 5 ชิ้น อย่างรวดเร็วโดยให้ได้สัดส่วน ดังรูป
- นำชิ้นเนื้อทั้งหมดใส่ลงในขวดน้ำยาอย่างรวดเร็ว ดังนี้
- ส่วนที่ 1 ใส่ลงใน 4% glutaraldehyde (สำหรับตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน)
- ส่วนที่ 2 ใส่ลงใน 10% neutral buffer formalin (สำหรับตรวจด้วย light microscope)
- นำขวดน้ำยาทั้งหมดแช่เย็นโดยใช้น้ำแข็งใส่ในภาชนะเก็บความเย็น แล้วนำส่งอย่างรวดเร็ว (ให้ส่งถึงเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการที่ให้การตรวจภายในเวลา 30 นาที)
- หากไม่สามารถนำส่งห้องปฏิบัติการได้ทันที (เกิน 30 นาที) ให้ดำเนินการดังนี้
- ส่วนที่ 1 ให้ใช้มีดโกนหรือมีดผ่าตัดใหม่ที่มีความควมมากแบ่งชิ้นเนื้อออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ขนาดประมาณ 1 ลบ.มม. โดยทำการแบ่งชิ้นเนื้อบนสไลด์และชิ้นเนื้อนั้นต้องมีน้ำยา 4% glutaraldehyde หล่อให้ท่วมอยู่ตลอดเวลา เสร็จแล้วนำชิ้นเนื้อใส่ลงในขวดที่มีน้ำยา 4% glutaraldehyde ทิ้งไว้นาน 30 นาที ระหว่างนี้ให้เขย่าขวดตลอดเวลาหรือใช้เครื่อง rotator หรือ shaker เมื่อครบเวลาแล้วให้เปลี่ยนน้ำยาในขวดเป็น phosphate buffer โดยเปลี่ยนน้ำยา buffer 3 ครั้ง ๆ ละ 10 นาที ระหว่างนี้ต้องเขย่าขวดเช่นกัน เสร็จแล้วให้นำชิ้นเนื้อที่แช่ใน buffer นี้เก็บในตู้เย็นอุณหภูมิ 4°C เพื่อรอนำส่งต่อไป
- ส่วนที่ 2 ไม่ต้องใส่ใน normal saline ให้ใส่ลงใน OCT compound (เป็นชื่อทางการค้าและเป็นน้ำยาสำเร็จรูปต้องจัดหาเอง) แล้วทำให้แข็งโดยแช่ในช่อง freeze ทิ้งไว้เพื่อรอนำส่งต่อไป ระหว่างนำส่งต้องเก็บในน้ำแข็งแห้งไม่ให้ OCT compound ละลาย (ดูรายละเอียดการวางชิ้นเนื้อใน OCT)
- ส่วนที่ 3 ให้ใส่ไว้ในตู้เย็นอุณหภูมิ 4°C เพื่อรอนำส่งพร้อมกับส่วนอื่น ๆ นำชิ้นเนื้อทั้ง 3 ส่วนส่งตรวจโดยวิธีเดียวกับข้อ 4
วิธีการเตรียมน้ำยาที่ใช้สำหรับเก็บชิ้นเนื้อ Kidney biopsy
วิธีการเตรียมน้ำยาที่ใช้สำหรับเก็บชิ้นเนื้อ Kidney biopsy |
1 |
4% glutaraldehyde in phosphate buffer 50% glutaraldehyde (EM grade) Phosphate buffer |
8 ml. 92 ml. |
2 |
Phosphate buffer Solution A : Sodium dihydrogen phosphate monohydrate Distilled water |
2.26 g. 100 ml. |
|
Solution B : Sodium hydroxide Distilled water |
2.52 g. 100 ml. |
|
Solution C : Glucose (anhydrous) Distilled water |
5.4 g. 100 ml. |
|
Solution D : ผสม Solution A 41.5 ml. กับ Solution B 8.5 ml. ปรับ pH 7.3-7.4 Buffer : ผสม Solution C 5 ml. กับ Solution D 45 ml. เก็บไว้ในตู้เย็น |
|
3 |
10% neutral buffer formalin Sodium dihydrogen phosphate monohydrate Disodium hydrogen phosphate anhydrous 40% formaldehyde (100% formalin) Distilled water |
0.4 g. 0.65 g. 10 ml. 90 ml. |
วิธีการวางชิ้นเนื้อใน OCT compound
วางแผ่นอลูมิเนียมฟอยล์ขนาดพอที่จะห่อชิ้นเนื้อได้สะดวก บนน้ำแข็งแห้งหรือบนพื้นที่มีความเย็นจัดประมาณ -200 °C เช่น ในช่องแช่แข็งในตู้เย็น หยด OCT compound ลงไป รอจนเริ่มแข็งตัว OCT จะเปลี่ยนเป็นสีขาวขุ่น นำชิ้นเนื้อวางลงไปในแนวราบ ถ้าเป็นชิ้นเนื้อจากผิวหนังให้วางชิ้นเนื้อโดยการตะแคงข้างขึ้น โดยให้ชั้นผิวหนังและชั้นใต้ผิวหนังอยู่ในแนวราบ แล้วหยด OCT ลงไปอีกจนท่วมชิ้นเนื้อพับอลูมิเนียมฟอยล์ห่อชิ้นเนื้อนั้นนำใส่ในขวดเก็บตัวอย่าง แล้วรีบแช่ในน้ำแข็งแห้งหรือไนโตรเจนเหลวทันที